วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

หนุ่มหนอนหนังสือ : กาลครั้งหนึ่ง ... เราเคยอยู่ในวงโคจรของกันและกัน

หนุ่มหนอนหนังสือ ... สวัสดีครับ






เราต่างรู้ว่า บนท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยดวงดาว ... 
แม้ทุกค่ำคืน บนท้องฟ้าจะมืดมิด แต่เราก็ยังคงเห็นความระยิบระยับจากการส่องแสงของดวงดาวบนท้องฟ้ามากมาย เพียงแต่เราอาจไม่รู้ว่าดาวดวงที่เรากำลังเห็นนั้น เป็นดาวดวงเดิมกับวันวานที่เราเห็นอยู่หรือเปล่า ...

สัมพันธภาพของคนเรา ก็เช่นกัน ...
บนความสัมพันธ์ที่มืดบอด เรายังคงรู้ว่า ... เขาหรือเธอ ยังมีตัวตนปรากฎอยู่บนโลกใบนี้

ผมไม่แน่ใจครับว่า ... ทุกๆ การตัดขาดของความสัมพันธ์ มันทำให้เรากับใครสักคนหลุดออกจากวงโคจรของกันและกันจริงๆ ไหม ... อย่างไรก็ตาม ระยะทางที่เคยเดินร่วมกันมา อาจยังคงหลงเหลือร่องรอยของการเดินทางร่วมกัน และยังคงมี ภาพจำต่างๆ ระหว่างเส้นทางที่เคยร่วมเดิน ... บางทีเราก็อาจจะเคยปลอบใจตัวเองว่า เรามากันได้ไกลเท่านี้ก็ดีเหลือเกินแล้ว เพราะ อย่างน้อยครั้งหนึ่งเราก็เคยมีกันและกัน ...


ผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้ ... ผมเชื่อว่า อาจมีบางความทรงจำของผู้อ่าน หวนคืนกลับมา
มีบางคนบอกว่า ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วทำให้ยิ้มทั้งน้ำตาได้เลย ...
บางที “ความผูกพัน” มันก็ซื้อเวลาให้คนสองคนไปต่อไม่ได้ ... ก็ได้แค่เพียงเช่าเวลาช่วงหนึ่งให้คนสองคนอยู่ในวงโคจรของกันและกัน






หากต้องการค้นหารายการหนังสือเล่มอื่นๆ เพิ่มเติม ...  แวะชม 🕮 ที่นี่นะครับ 

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

หนุ่มหนอนหนังสือ : เลิกเป็นคนดี แล้วจะมีความสุข - อย่ามาฆ่ากันด้วยคำว่าดีเกินไป

หนุ่มหนอนหนังสือ ... สวัสดีครับ






ผมเชื่อว่า บนโลกใบนี้ ยังมีอีกหลายคนเลยทีเดียวที่ไม่ชอบคนที่ถูกจัดหมวดให้อยู่ในกลุ่มของคำว่า #คนดี
บางคนมองว่า ชีวิตควรมีสีสัน มีความเสี่ยง ตลอดจน ความตื่นเต้นเร้าใจ ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงบางคนที่เรียบร้อย ก็อาจชอบผู้ชาย Bad Boy ส่วน ผู้ชายบางคนที่สุภาพ ก็อาจชอบผู้หญิงที่ออกแนว Play Girl ... และเมื่อ #คนที่สุภาพเรียบร้อย มีมุมมองต่อโลกใบนี้ว่า Life is Beautiful ทุกสิ่งทุกอย่างแลดูสวยงามไปหมด (โลกสวย) หลายต่อหลายครั้งจึงลืมนึกกันไปว่า สิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่สีขาว แต่ยังมีสีดำและสีเทาปะปนอยู่ด้วย ... ดังนั้นการเผื่อโอกาสให้ตนได้รู้จักกับความเสียใจ ความเจ็บช้ำ และความผิดหวัง จึงเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และยอมรับว่า โลกใบนี้ก็มีทั้งดีและไม่ดี การเรียนรู้ที่จะรับ-ปล่อย-วาง จึงกำเนิดคำๆ หนึ่งซึ่งทุกคนคงรู้จักแต่หากยากที่จะทำ ก็คือ #การทำใจ นั่นเอง ...






ความต้องการ #การได้เป็นที่ยอมรับ จากคนรอบข้างก็เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้นกับตนเอง ...  









หากคำว่า CARE มันคือ #ความเอาใจใส่ ... เราก็ต้องมองให้เห็นทั้งสองฝ่าย #ใส่ใจเขา #ใส่ใจเรา
#ถ้าเขาไม่ใส่ใจเรา ก็ #อย่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา ... หากเป็นห่วงหรือใส่ใจกับใครๆ มากเกินไป อาจโดนฆ่าด้วยคำว่า #ดีเกินไป ก็ได้นะครับ ...  




ลอง -เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข- อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วน่าจะได้ตัวอย่างของการดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข ... หนังสือเล่มนี้อาจช่วยให้เรา #กล้าที่จะเป็นตัวเองในมุมที่ถูกต้องมากขึ้น หลายครั้งที่ผมยังคงพบว่า มีบางคนที่มีระดับความเป็นตัวเองสูง แต่กลับใช้ความเป็นตัวเองนั้นทำให้คนอื่นเสียความเป็นตัวเองอยู่เสมอๆ ดังนั้น #การแคร์ผู้อื่นมากไป จนไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็จะพบกับความกดดันและเป็นทุกข์ ... หนังสือเล่มนี้จึงจะช่วยคุณค้นพบกับ #คุณที่เป็นคนใหม่ ใส่ใจและรักตัวเองในรูปแบบที่ถูกต้องมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เราเลิกกลัวกับการถูกเกลียด เลิกพยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับผู้อื่น และเลิกเกรงใจจนเกินเหตุ เลิกทำในสิ่งที่ไม่ชอบเพียงเพราะอยากให้คนอื่นพอใจ ซึ่งเป็นการปลดแอกความทุกข์จากวิถีแห่ง #การเป็นคนดีเกินไป ... หากคุณทำได้ ชีวิตของเราอาจกลับมาในอยู่รูปแบบที่มีคุณค่ามากขึ้นด้วย


ลองมาดูไฮไลท์ของหนังสือเล่มนี้ จากสารบัญและเนื้อหาบนแผ่นปกกันดีกว่าครับ

บทที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
บทที่ 2 ปฏิสัมพันธ์
บทที่ 3 ความเชื่อ
บทที่ 4 ทรัพย์สินเงินทอง
บทที่ 5 ความรัก
บทที่ 6 การสร้างผลผลิตใหม่



     
       
     ทุกคนต้องการเป็นที่ชื่นชอบและไม่โดนเกลียดกันทั้งนั้น แต่บางครั้งเราก็เอาความสุขไปผูกกับคนอื่้นมากเกินไป จนต้องแสร้งทำสิ่งที่ไม่ชอบ แค่เพื่อไม่ให้ถูกเกลียดหรือโดนมองว่าประหลาดทั้งที่จริงแล้วอีกฝ่ายไม่ได้แคร์หรือชื่นชอบสิ่งที่เราทำมากมาย มิหนำซ้ำมีแต่เราที่ต้องทนอึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำไมต้องทนทุกข์ใจขนาดนั้น ถึงเวลาเลิกฝืนทำตามใจคนอื่น แล้วกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองได้แล้ว



โกะโด โทคิโอะ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจ และนักเขียนหนังสือแนวพัฒนาตัวเองชื่อดังของญี่ปุ่น นำเสนอเทคนิคการใช้ชีวิตอย่างอิสระ โดยยกสถานการณ์ในชีวิตประจำวันทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิตที่คนเรามักเผลอ #สร้างภาพคนดี เปรียบเทียบกับคนที่กล้าทำสิ่งที่ต้องการ
เลิกกลัวที่ต้องอยู่คนเดียว ต้องทนคบค้าสมาคมกับคนที่เข้ากันไม่ได้, เลิกเกรงใจจนเกินเหตุ เครียดสะสม แก่เร็ว ป่วยง่าย, เลิกกังวลกับการมีเพื่อนน้อย มีแต่เพื่อนที่คบกันแค่ผิวเผินมากขึ้นๆ และยิ่งรู้สึกเหนื่อย เมื่อกล้ายืนหยัดความคิดของตัวเอง กล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่ทำไม่ได้ และสิ่งที่ทำไม่ไหว เราก็จะไม่ต้องเสแสร้าง ไม่อึดอัด และไม่ถูกคนอื่นเอาเปรียบอีกต่อไป









หากต้องการค้นหารายการหนังสือเล่มอื่นๆ เพิ่มเติม ...  แวะชม 🕮 ที่นี่นะครับ 

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

หนุ่มหนอนหนังสือ : กฎข้อนึงของความสัมพันธ์ ... ไปต่อหรือไปต่อไม่ได้













เชื่อไหมครับว่า ... ทุกๆ ความสัมพันธ์ล้วนมีกฎบางข้อซ่อนอยู่ในความผูกพันของกันและกันเสมอ

หากพูดถึงเรื่องของสัมพันธภาพ ... นิยามโดยทั่วไปอาจหมายถึง การให้ความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน การให้กำลังใจและพร้อมที่จะอยู่เป็นเพื่อนร่วมปรับทุกข์สุขในยามที่เราต้องการเสมอ ... หากเราแปลนิยามของคำว่าสัมพันธภาพ ดีๆ เราจะพบว่า เนื้อหานั้นแฝงกฎบางอย่างบนความสัมพันธ์ไว้ เช่น ห้ามทรยศหักหลัง อย่าหวังตวงแต่ผลประโยชน์ส่วนตน รู้จักให้และรู้จักรับในระดับที่พอดี ...


ผมเชื่อว่าทุกสัมพันธภาพ ไม่ว่าจะเป็น มิตรภาพความเป็นเพื่อน หรือการมีชีวิตคู่ ... แต่ละคน แต่ละกลุ่ม หรือแต่ละคู่ ต่างก็มีระยะเวลาในการเรียนรู้ไม่เท่ากัน น่าเสียดายครับที่บางคนมีโอกาสเรียนรู้กันและกันเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่บางคนก็ได้เรียนรู้กันและกันตลอดช่วงชีวิต ... ตัวแปรหนึ่งที่สำคัญคือ กฎของสัมพันธภาพ ที่แต่ละคนวางไว้เป็นเดิมพัน ... กฎของผม กฎของคุณ กฎของเรา ... ลองมาดูกันดีกว่าครับว่า กฎข้อนึง ของความสัมพันธ์ ที่หนังสือเล่มนี้กำลังสื่อนั้น คืออะไร ...

ครั้งแรกที่ผมพบหนังสือเล่มนี้ ผมเข้าใจว่า กฎข้อนึง ของความสัมพันธ์ ก็จะมีเพียงหนึ่งข้อเท่านั้น
แต่สารบัญภายในหนังสือเล่มนี้ได้แสดงรายชื่อบทต่างๆ ให้ผู้อ่านรู้ว่า “กฎของความสัมพันธ์” นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ข้อเดียว ผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ได้ตีแผ่กฎของความสัมพันธ์บนหนังสือเล่มนี้ไว้ดังนี้ ครับ
*  Leave Group
*  เราถูกสร้างมาเพื่อเติมเต็มกันและกัน
*  ในความรักไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ
*  เรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองให้เป็น
*  ไม่ว่าใครก็ตามไม่มีสิทธิ์ห้ามเรามีความสุข
*  มันก็แค่อีกหนึ่งวันแย่ๆ เท่านั้นเอง


ลองมาดูรีวิวของทั้งนักเขียนและสำนักพิมพ์ฯ ที่ได้กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้กันบ้างดีกว่า ...

รีวิวโดยนักเขียน : กฎข้อนึง ของความสัมพันธ์
ผมรู้สึกเสมอว่าความเจ็บปวดของเราส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการที่เราไม่อยากให้มีอะไรเปลี่ยนไป ลึกๆ แล้วเราอยากให้ทุกอย่างเหมือนเดิมอย่างที่มันเคยเป็น เพราะแม้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่นั้นอาจไม่ได้ดีนัก แต่เมื่อมันเป็นสิ่งที่เป็นอยู่นั้นอาจไม่ได้ดีนัก แต่เมื่อมันเป็นสิ่งที่เราเผชิญอยู่ทุกๆ วันเรารู้ดีว่าเราจะรับมือกับมันได้อย่างไร

เพราะอย่างนั้นเราจึงอยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม อยากให้คนที่เรารักเขายังรักเราเหมือนเดิม อยากหยุดเวลาช่วงวัยเยาว์เอาไว้ไม่อยากเติบโต ไม่อยากไปพบเจออะไรก็ตามที่เราไม่รู้จัก เรายินดีกับการอยู่ใน comfort zone มากกว่าต้องออกไปผจญภัยกับวันข้างหน้าที่ไม่มีอะไรแน่นอน

เรายินดีกับการอยู่ตรงที่เก่า มากกว่าการเดินหน้าไปยังที่ใหม่ๆ ซึ่งเราไม่คุ้นเคย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เราเรียกว่า comfort zone มันอาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เราคิดก็ได้ และเราเองก็รู้ดีแต่เพราะว่าเราหวาดกลัวกับวันข้างหน้าที่เราไม่รู้มากเกินไป เราเลยยังรู้สึกกว่าการเปลี่ยนแปลงหรืออะไรที่เปลี่ยนไป เป็นเรื่องยากเย็นเกินรับมือได้มากกว่า ทั้งที่ในความจริงไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนไป

ทุกอย่าง ทุกคน สรรพสิ่ง เปลี่ยนแปลงไปในทุกวัน การที่เรากลัวความเปลี่ยนแปลงหรือกลัวว่าอะไรๆ จะเปลี่ยนไปเท่ากับเรากลัวสิ่งที่อยู่กับเรามาตั้งแต่ต้นและเราไม่มีวันหนีพ้น แม้แต่ตัวเราเองร่างกายของเราเปลี่ยนไปในทุกวัน จากเด็กทารกในวันแรกเกิด กลายเป็นวัยชราในวันที่บั้นปลายมาถึง

จิตใจของเราเอง ความคิด ความเชื่อ ความฝัน ทัศนคติของเราก็เปลี่ยนแปลงไปเสมอและเราเองก็รู้ดี เมื่อเราเห็นแล้วว่าไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนไป ไม่, แม้กระทั่งตัวเราเอง วิธีการที่จะอยู่กับความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุดย่อมไม่ใช่การหลบหนี แต่คือการยอมรับความจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปในวันหนึ่ง และมันเป็นเช่นนั้นเอง

รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : กฎข้อนึง ของความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์เป็นเรื่องซับซ้อนเพราะเกิดจากคนสองคนมาสานสัมพันธ์กัน ปกติแค่เราสัมพันธ์กับตัวเองคนเดียวยังเหนื่อยเลย แล้วนี่คือคนแปลกหน้า ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เราเปิดโอกาสที่จะทำความรู้จัก และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ตอนแรกทั้งสองฝ่ายอาจจะถ้อยทีถ้อยอาศัยเอาด้านดีๆ มามอบให้กัน แต่เมื่อเริ่มสนิทสนมคุ้นเคยก็กลายเป็นว่าปล่อยปละละเลยไม่สนใจดูแล และไม่สร้างสายสัมพันธ์ใหม่ๆ แต่บั่นทอนสายสัมพันธ์ที่มีลง แน่นอนที่เราควบคุมบังคับคนอื่นไม่ได้หรอกเราทำได้เพียงดูแลและควบคุมตัวเอง กฎข้อนึงของความสัมพันธ์คือ ให้รักษาพื้นที่ส่วนตัวและความเป็นตัวเองไว้ 70% และแชร์พื้่นที่ส่วนกลางกับอีกคน 30% โดย 30% นี่เป็นของเรา เมื่อรวมกับของเขาอีก 30% ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางระหว่างกันถึง 60% ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ

รัก นับถือ เคารพ และรักษาสิทธิของตัวเองให้มากๆ แล้วก็รัก นับถือ เคารพ และรักษาสิทธิของคนอื่น ให้มากๆ เท่าที่เรารักตัวเองแล้วเรื่องดีๆ จะเกิดขึ้น



ส่วนตัวผมเอง ... ผมมองว่าหนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งที่น่าอ่านมากเลยทีเดียว กฎบางข้อก็ตรงกับใจผม และผมเชื่อว่า กฎบางข้อก็ตรงกับใจของคุณเช่นกัน ... เราไม่รู้หรอกว่า กฎของความสัมพันธ์ที่เราสร้างขึ้นจะเป็นที่ยอมรับจากผู้คนรอบข้างของเราหรือไม่ จนกว่าเราจะเรียนรู้จากสถานการณ์ของการอยู่ร่วมกัน ... เราสร้างกฎขึ้นมาได้แต่อย่ากดดันตัวเองและคนอื่นด้วยกฎที่เราสร้างขึ้นมา นะครับ

“ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่ว่าเราอยากให้มันเหมือนเดิมสักเท่าไหร่”



หากต้องการค้นหารายการหนังสือเล่มอื่นๆ เพิ่มเติม ...  แวะชม 🕮 ที่นี่นะครับ