Open Mind … การเปิดใจ ไม่ใช่ทำได้ง่ายกับทุกคน
ประตูใจของบางคนเป็นเหมือน ประตูเหล็กตามอาคารพาณิชย์หรือตึกแถว
ที่ต้องปิดล็อคถึงสองชั้น ซึ่งก็เหมือนการป้องกันจิตใจที่อาจอ่อนไหวต่อโลกภายนอก
และป้องกันจากใครบางคนที่เข้ามาลวงหลอกแล้วก็จากไป ... หลายคนหมดเรี่ยวแรงไปกับการใช้กำลังในการเปิดปิดประตูเหล็กในแต่ละวัน
การเปิดแง้มเพียงเล็กน้อย ให้มีพื้นที่เพียงแค่พอที่เราจะเข้าออก จึงง่ายกว่า
การเปิดกว้างจนสุด เพราะไม่รู้ว่าเราจะมีแรงปิดได้เท่ากับตอนเปิดอีกหรือไม่
เพื่อไม่ให้ใครๆ เข้าถึง ความจริงส่วนลึกที่ถูกซ่อนอยู่ภายในใจ
ผู้นั้นจึงต้องเปิดประตูเหล็กให้มีเสียงเบาที่สุด
แต่ สนิมที่เกาะประตูใจ จะขัดยังไงก็ขัดยาก แต่ก็ใช่ว่าจะขัดออกไปมิได้
... คนเราจึงต้องการเพียงแค่ ใครสักคนที่เข้าใจ ธรรมชาติของเหล็กที่เคยกล้า
ว่ามันมีความฝืดจากสนิมสีหม่นที่เริ่มกร่อน และหากใครคนนั้นสามารถช่วยกันขัดสนิมจนเห็นเหล็กกล้าอีกที
ก็จะช่วยให้ผู้นั้นกลับมามีความพยายามที่จะเปิดใจรับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
... เพราะความเป็นจริงนั้น ไม่มีใครอยากปิดประตูขังตัวเองให้อยู่กับโลกสีเนกาทีฟตลอดไป
หรอกครับ
หากวันใดวันหนึ่ง เราได้พบกับ คนที่เราไว้ใจ จนเรากล้าเริ่มที่จะเปิดใจเรียนรู้ชีวิตอีกครั้ง ...
เราอาจมีแรงมากพอที่จะ เปิดประตูให้กว้างกว่าที่เคย ถึงจะมีเสียงรบกวนจากแรงเสียดสีของประตู แต่เราก็จะทำความเข้าใจได้ว่า มันเป็น
องค์ประกอบของความอดทน สำหรับโอกาสใหม่ๆ ที่อาจจะดีกว่าสิ่งที่เคยมี ...
มีสำนวนภาษาอังกฤษที่กล่าวไว้ว่า To
put yourself in someone’s shoes ... ก็เปรียบหมายถึง
การเอาใจเราไปใส่ใจเขา หรือ การเอาใจเขาไปใส่ใจเรา นั่นเอง ... เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า
ภายใต้รองเท้าที่แต่ละคนใส่นั้นผ่านอะไรในชีวิตกันมาบ้าง เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปต่อว่าหรือตัดสินการกระทำบางอย่าง
... นับตั้งแต่ก้าวแรกที่มีคนมาหาเราที่หน้าประตู และ เมื่อเราลองเปิดประตูใจให้ใครบางคนเข้ามาเรียนรู้ เขาอาจไม่ถอดรองเท้าและย่ำใจเราโดยไม่สนใดๆ
ทั้งสิ้น ในขณะที่บางคนอาจถอดวางรองเท้าให้เป็นระเบียบก่อนเดินเข้าใจ ... แต่บางครั้งเรื่องราวอาจพลิกก็ได้ครับ
เพราะคนที่ไม่ถอดรองเท้านั้นเขาอาจเจ็บเท้า เท้าเป็นแผล หรือคิดกังวลในเรื่องของกลิ่นเท้าที่อาจส่งผลให้บรรยากาศที่มีระหว่างกันมันดูแย่ลงไป
ในขณะที่ การถอดรองเท้าของบางคนอาจเพียงเพราะเขาไม่อยากให้รองเท้าราคาแพงเปื้อนมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ... “DON’T JUDGE A
MAN UNTIL YOU HAVE WALKED A MILE IN HIS BOOTS” – อย่าด่วนตัดสินคนจนกว่าคุณจะได้ผ่านประสบการณ์เหมือนเขา

อย่าลืมนะครับ ... #เปิดใจรับใคร ก็เตรียมเผื่อใจให้กับความผิดหวังบ้าง
#เตือนใจตัวเอง ... #ประตูใจ ...
à บางคนจำเป็นต้องปิด
à บางคนพร้อมที่จะเปิด
à บางคนพร้อมที่จะเปิด
#เตือนใจตัวเอง ... #ความทรงจำ ...
à บางคนต้องการเก็บ
à บางคนต้องการปล่อย
รายละเอียด : คนบ้าที่หน้าประตู
สารบัญ : คนบ้าที่หน้าประตู
วันที่ 1 : เวียน
วันที่ 1 : จบ
วันที่ 1 : พบ
วันที่ 1 : หนี
วันที่ 1 : หวน
วันที่ 1 : วน
วันที่ 1 : เผย
วันที่ 1 : ถอน
วันที่ 1 : ฝืน
วันที่ 1 : เปิด
วันที่ 1 : ปิด
วันที่ 1 : ทอง
วันที่ 1 : เมิน
วันที่ 1 : มืด
วันที่ 1 : นาก
รีวิวโดยนักเขียน : คนบ้าที่หน้าประตู
ราวสิบปีที่แล้วเห็นจะได้
คนบ้าปรากฏตัวเป็นครั้งแรก สงสัยข้าพเจ้าจะมองดูเขานานเกินไป จึงไม่ทันหันหลบ
คนบ้าเห็นข้าพเจ้า เขาเดินมาหาและนั่งเฝ้าข้าพเจ้าอยู่อย่างนั้น
ไม่เคยจากไปไหนอีกเลย จนกระทั่งสามปีที่แล้ว สามปีที่แล้ว
หลังจากข้าพเจ้าเขียนเรื่องคนบ้าคนนั้นจนได้เป็นต้นฉบับส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลยอดเยี่ยม
สาขาวรรณกรรม รางวัลยุวศิลปินไทย 2558 หรือ YOUNG
THAI ARTIST AWARD 2015 ของมูลนิธิเอสซีจี
ต่อมาและโดยความกรุณาของคุณจตุพล บุญพรัด บรรณาธิการแพรวสำนักพิมพ์
ต้นฉบับชิ้นนั้นก็กลายเป็นนวนิยายเล่มนี้
ขณะเดียวกันคนบ้าก็เหมือนจะมีที่ทางของตัวเอง เขาไม่ค่อยมาให้ข้าพเจ้าเห็นหน้าค่าตาบ่อยเท่าใดนัก
ขอขอบคุณเหล่าผู้สนับสนุนตลอดชีวิตของข้าพเจ้ามา ณ ที่นี้
รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างทั้งดีและร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตอันอลหม่านของข้าพเจ้า
รวมถึงคนบ้าคนนั้นด้วย
* ติกขปัญญ์ มณีนุ่ม *
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ :
คนบ้าที่หน้าประตู
อาจด้วยเพราะชื่อเรื่องทำนองว่านี้เป็นเรื่องของคนบ้าที่ไม่เร่งเร้าใจนัก
จึงมีบางคนถามว่า คนบ้าที่หน้าประตู นวนิยายขนาดสั้น 17 ตอนของนักเขียนหญิงรุ่นใหม่นามติกขปัญญ์ มณีนุ่ม เล่มนี้
มีความน่าสนใจให้ชวนอ่านอย่างไรบ้าง บรรณาธิการตอบไปว่า น่าสนใจแรกคือ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวค้นพบตัวเอง
(novel of growth and self discovery) เป็นการค้นพบตัวเองของ
ทอง-ธเนศ ตัวละครคนหนุ่มวัยเริ่มทำงาน โดยมีเมืองใหญ่เป็นฉากหลัง
ซ้ำยังซ่อนฉากหลังไว้ด้วยฉากสังคมเกษตร
ที่มีตัวละครสำคัญอีกตัวคือนากน้องสาวของทอง ความน่าสนใจต่อมาคือ นักเขียนเล่าเรื่องด้วยกระแสสำนึกของตัวละคร
ใช้สัญลักษณ์และภาษาที่ลึกซึ้งคมคาย นำพาผู้อ่านเข้าถึงพฤติกรรมของตัวละครได้ดี
ขณะที่ความน่าสนใจสุดท้ายคือ คนบ้าที่หน้าประตู
เรื่องนี้นับเป็นนิยายที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม YOUNG THAI ARTIST AWARD
เมื่อปี 2015 ทำไมอย่างไร นิยาย
คนบ้าที่หน้าประตู เรื่องนี้จึงได้รับรางวัลยอดเยี่ยม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น